แว่นตาเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) คืออะไร? เหมาะกับใคร? เลือกยังไงให้คุ้ม
หากคุณเริ่มรู้สึกว่า “มองใกล้ไม่ชัด มองไกลก็เริ่มพร่า” หรือเบื่อกับการต้องถอดแว่นเข้า-ออกบ่อย ๆ อาจถึงเวลาทำความรู้จักกับ “เลนส์โปรเกรสซีฟ” แล้วก็ได้ มาค่ะ เดี๋ยววันนี้อ๊อบจะเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายที่สุดนะคะ
Progressive Lens คืออะไร?
ความหมายและหลักการทำงานของเลนส์โปรเกรสซีฟ เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) คือเลนส์แว่นตาที่รวมค่าสายตาหลายระยะไว้ในเลนส์เดียว โดยไม่มีเส้นแบ่งเหมือนแว่นสองชั้น (Bifocal) ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนทั้งระยะใกล้ (เช่น อ่านหนังสือ), ระยะกลาง (หน้าคอมพิวเตอร์) และระยะไกล (มองวิว ขับรถ) อย่างต่อเนื่อง
Progressive vs Bifocal ต่างกันยังไง?
Bifocal: มีเส้นตัดชัดเจนระหว่างสองระยะ ทำให้ภาพมีการกระโดด
Progressive: ไม่มีเส้นขอบ มองเห็นลื่นไหลและดูเป็นธรรมชาติกว่า
Progressive Lens ราคาเท่าไหร่?
ราคาของเลนส์โปรเกรสซีฟเริ่มตั้งแต่ประมาณ 7,000 บาท ไปจนถึง 70,000++ บาท ขึ้นอยู่กับเกรดเลนส์, ความแม่นยำในการผลิต, ยี่ห้อ และเทคโนโลยีเฉพาะทาง
มีกี่แบบ มีกี่ยี่ห้อ?
ในตลาดมีทั้งเลนส์จากผู้ผลิตชั้นนำ เช่น:
ZEISS
Essilor (Varilux)
Hoya
Nikon
Rodenstock
โดยแต่ละยี่ห้อมีระดับเลนส์ตั้งแต่ Standard, Premium ไปจนถึง Customized ซึ่งปรับตามรูปหน้าและพฤติกรรมเฉพาะของแต่ละคน
ใครเหมาะกับแว่นโปรเกรสซีฟ?
ผู้ที่มีปัญหาสายตาหลายระยะ เหมาะกับผู้ที่มีภาวะสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) หรือมีทั้งสายตาสั้นและยาวในคนเดียวกัน
กลุ่มผู้มีอายุ 40+ และผู้เริ่มมีสายตายาวตามอายุ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น เลนส์ตาจะปรับโฟกัสระยะใกล้ได้น้อยลง แว่นโปรเกรสซีฟจึงเป็นคำตอบที่สะดวกกว่าแว่นหลายอัน
ข้อดี-ข้อเสียของเลนส์โปรเกรสซีฟ
ข้อดี
สะดวก มีแว่นอันเดียวพอ เปลี่ยนระยะโฟกัสได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องถอดแว่น
สวยงาม ดูดี ไม่ดูลุง 🤣ไม่มีเส้นตัดเหมือน Bifocal
ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน
ข้อเสีย
ต้องใช้เวลาฝึกปรับตัวช่วงแรก (ประมาณ 1-2 สัปดาห์) จะคล้ายๆทักษะการขี่จักรยานเลยนะคะ แต่ถ้าได้แล้ว จะได้เลยค่ะ
หากวัดผิดตำแหน่งเลนส์ อาจทำให้เวียนหัวหรือมองภาพผิดเพี้ยน อันนี้ทำให้การวัดแว่นโปรเกรสซีฟ จะต้องละเอียดในการวัด และใช้เครื่องวัดที่สามารถให้ค่าที่แม่นยำสูงสุด อย่างที่ O33 จะขอเวลาคุณลูกค้าอย่างน้อย 90 นาทีนะคะ
วิธีเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟให้เหมาะกับคุณ
ระดับราคาและเกรดของเลนส์
Standard: พื้นฐาน ใช้ได้ดีทั่วไป แต่อาจมีมุมภาพที่แคบซักเล็กน้อย
Premium: มุมมองกว้างขึ้น ลดอาการบิดเบี้ยว
Customized: ปรับตามลักษณะเฉพาะบุคคล จะใส่สบายที่สุด แต่แลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้นหน่อย
หากจะเปรียบเทียบอาจจะเหมือนรถเบนซ์ มี c-class, e-class และ s-class ทุกอันสามารถพาเราจากจุด A ไป B ได้แต่ความสบายในการใช้ก็แตกต่างกัน แลกมาด้วยราคานั่นเองค่ะ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดสายตา
การวัดค่า PD, ความสูงเลนส์, ความโค้งหน้ากรอบ ต้องแม่นยำ และควรมีการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานก่อนเลือกเลนส์ การซักประวัติเลยเป็นส่วนที่สำคัญมากๆเลยค่ะ
ปัจจัยอื่น เช่น lifestyle, การใช้งานจริง
ผู้ที่ใช้คอมมากอาจเหมาะกับเลนส์ Digital Office ผู้เดินทางบ่อยอาจต้องการเลนส์ที่ลดแสงสะท้อนหรือป้องกัน UV
การเลือกประเภทของเลนส์นั้นมีความหลากหลาย แต่ที่ O33 เราจะเป็นผู้ช่วยให้คุณลูกค้านะคะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลยค่ะ แค่บอกความต้องการมาครบถ้วน เราจะเลือกเลนส์ที่เหมาะสมกับคุณที่สุดให้เลยนะคะ
คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มใส่แว่นโปรเกรสซีฟ
เทคนิคการฝึกใช้
หันศีรษะแทนการกลอกตา
ใช้ในที่ปลอดภัยก่อน เช่น บ้านหรือที่ทำงาน
ฝึกเดินขึ้นลงบันไดด้วยความระมัดระวัง
การดูแลรักษาแว่น
ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ด
หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนจัด
หมั่นตรวจสายตาทุกปีเพื่ออัปเดตเลนส์
สรุป – Progressive Lens เหมาะกับคุณหรือไม่?
หากคุณเริ่มมีปัญหาในการมองใกล้หรือไกล แว่นโปรเกรสซีฟคือการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ของความสะดวก ความสวยงาม และคุณภาพชีวิต แต่เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกวัดสายตาและตัดแว่นกับร้านเฉพาะทางที่มีผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่ง O33 Vision Solution พร้อมดูแล เลือกแว่น หรือ อวัยวะที่ 33 ที่เกิดมาเพื่อคุณนะคะ